155 47-49 Thanon Pracharat, Tambon Suan Yai, Mueang Nonthaburi District, Nonthaburi 11000, Thailand
+66 95 745 4482
เปิดทุกวัน : 9:00 น. - 20.00 น.
close-up-pile-french-delicate-macaroons

มาการอง ภาษาอังกฤษ คือ Macaron

          มาการอง หรือมาการูน เจ้าขนมหวานก้อนกลมที่มีรสชาติหวานหอม รูปลักษณ์สีสันสดใสน่ารักน่าหม่ำ และขนาดชิ้นพอดีคำ ชวนให้ลิ้มลอง จะซื้อกินเองก็อร่อย หิ้วนำไปเป็นของขวัญก็เข้าท่า หรือใครจะครีเอตทำเป็นลายการ์ตูนเพื่อขายสร้างรายได้ก็เยี่ยมไปเลย หลายคนใช้เวลาว่างลองหัดทำมาการองแล้วเกิดปัญหามากมาย เช่น ขาไม่ขึ้น หน้าแตก ติดแน่นกับพิมพ์ เอาไม่ออก จนไม่อยากทำแล้ว อย่าเพิ่งหมดไฟไปค่ะ วันนี้เรามีวิธีการแก้ปัญหายอดฮิตในการทำ และไอเดียเด็ด ๆ ในการสร้างสรรค์มาการองให้น่ารักน่ากินกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

ปัญหายอดฮิตและวิธีแก้ในการทำมาการอง

          มือใหม่หัดทำมาการองทั้งหลายคงจะปวดหัวกับสารพันปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำ ทั้งขาไม่ฟู หน้าแตกร้าว ตัวแป้งเกาะแน่นกับพิมพ์ เอาไม่ออก ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เรามีวิธีการสังเกตและแก้ไขง่าย ๆ มาฝากกัน ดังนี้

  • มาการองไม่มีขา หรืออาการที่มาการองไม่ขึ้นฟู เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ใส่น้ำตาลน้อยเกินไป คนส่วนผสมมากเกินไป หรือเมื่อบีบส่วนผสมทั้งหมดแล้วนำเข้าเตาอบเลย ไม่ยอมทิ้งไว้ให้เซตตัวก่อน หรือแม้กระทั่งอบในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อทำตามสูตรต่าง ๆ อย่างละเอียด เคาะถาดเพื่อไล่อากาศ และทิ้งส่วนผสมที่บีบเอาไว้ให้แห้งก่อน ไม่ติดมือ แล้วค่อยนำเข้าเตาอบในอุณหภูมิตามที่แต่ละสูตรกำหนดไว้ 

  • หน้ามาการองแตกร้าว เกิดจากมีอากาศในไข่ขาวมากเกินไป และส่วนผสมทั้งหมดยังผสมไม่เข้ากันดี วิธีแก้คือ ควรคนส่วนผสมให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และให้ความหนืดพอประมาณ ไม่ข้นหรือเหลวจนเกินไป 

  • มาการองติดพิมพ์ แกะไม่ออก มี 2 สาเหตุ คือ ใช้กระดาษในการทำขนมไม่ถูกต้อง จึงควรเลือกใช้กระดาษที่เป็นแผ่นรองอบ (Parchment Paper) โดยเฉพาะที่มีสารกันติดเคลือบอยู่ และอีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะมาการองยังไม่สุกดี จึงควรอบต่ออีกประมาณ 3-5 นาที แล้วลองเช็กดูอีกครั้ง 

  • ผิวที่ฐานด้านในมาการองไม่เรียบ เพราะมีฟองอากาศอยู่ด้านในจึงส่งผลทำให้ผิวไม่เรียบ วิธีแก้คือ เมื่อบีบส่วนผสมลงบนถาดอบแล้วให้เคาะถาด โดยใช้มือเคาะที่หลังถาดหรือเคาะถาดเบา ๆ กับโต๊ะก็ได้ เพื่อไล่ฟองอากาศ ก่อนนำเข้าเตาอบ 

  • ตัวมาการองยังไม่สุก แต่ผิวด้านบนเริ่มไหม้ สาเหตุเกิดจากอุณหภูมิที่ใช้อบนั้นแรงเกินไป ควรปรับลดและลองเช็กดูอีกครั้ง

สูตรทำมาการองริลัคคุมะ

มาการอง

ภาพจาก คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

           สาว ๆ ทั้งหลายต้องกรีดร้องให้ความน่ารักของขนมหวานสุดคิวต์อันนี้ แค่เป็นมาการองก็น่ากินอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มไอเดียเก๋ ๆ ทำเป็นเจ้าหมีริลัคคุมะเข้าไปอีก น่ารักจนไม่อยากจะกินเลยค่ะ

ส่วนผสม ฝามาการองริลัคคุมะ

  • อัลมอนด์ป่น 100 กรัม

  • น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม

  • ไข่ขาว (1) 36 กรัม

  • ไข่ขาว (2) 36 กรัม

  • ผงโกโก้ 10 กรัม

  • น้ำตาลทรายขาว 75 กรัม

  • น้ำเปล่า 25 กรัม

  • สีผสมอาหารสีเหลืองชนิดผง (ใครมีเจลก็ใช้แบบเจลก็ได้)

ส่วนผสม ไส้ช็อกโกแลต

  •  ช็อกโกแลตนม 40 กรัม

  •  วิปครีม 20 กรัม

วิธีทำฝามาการองริลัคคุมะ

  1. เตรียมส่วนผสมของแห้ง ได้แก่ อัลมอนด์ป่น น้ำตาลไอซิ่ง ปั่นรวมกันให้ละเอียด นำไปอบประมาณ 10 นาที เพื่อไล่ความชื้น อบเสร็จ ผึ่งให้เย็น และร่อนให้ได้ผงส่วนผสมที่ละเอียดที่สุด 

  2. ทำอิตาเลียนเมอแรงค์ โดยเทน้ำตาลลงในหม้อ เติมน้ำสะอาดโดยไม่ต้องคน จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟ ให้ได้อุณหภูมิ 117 องศาเซลเซียส และปิดไฟ

  3. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วปานกลาง เทน้ำเชื่อมลงไปผสม โดยเททีละนิดจนหมด ตีไปเรื่อย ๆ จนตั้งยอด 

  4. ผสมส่วนผสมของแห้งลงไป คนให้เข้ากัน แบ่งส่วนสีขาวและผสมผงโกโก้ลงไปเพื่อทำเป็นหน้าของเจ้าริลัคคุมะ 

  5. แบ่งอิตาเลียนเมอแรงค์มาใส่ ตะล่อมคนให้เข้ากัน นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ถุงบีบเตรียมไว้ 

  6. บีบส่วนผสมให้เป็นทรงเจ้าหมีริลัคคุมะ วาดส่วนจมูกสีขาวและหูสีเหลือง จากนั้นใช้มือเคาะพิมพ์จากด้านล่างถาดเพื่อไล่ฟองอากาศ 

  7. พักหน้าไว้ 10 นาที นำเข้าเตาอบที่วอร์มไว้ที่ 160 องศาเซลเซียส และลดอุณหภูมิลงเหลือ 140 องศาเซลเซียส อบเป็นเวลา 16 นาที 

  8. เมื่ออบครบเวลาให้นำออกจากเตา พักไว้ให้เย็นสนิท 

วิธีทำไส้มาการอง

  1. ละลายวิปครีมในไมโครเวฟประมาณ 15 วินาที 

  2. เทใส่ถ้วยช็อกโกแลต คนให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างละลายเข้ากัน พักให้หายร้อน และนำไปแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง 

  3. นำไส้ออกมาจากตู้เย็น ใส่ถุงบีบ และบีบใส่ฝามาการองที่เย็นสนิทดีแล้ว

วิธีเขียนหน้ามาการอง

  • ใช้ผงสีผสมอาหารสีดำผสมน้ำ 4-5 หยด คนให้เข้ากัน แล้วใช้พู่กันจิ้มวาดตาและจมูกของหมีน้อยริลัคคุมะได้เลย 


ขอบคุณข้อมูลจาก https://cooking.kapook.com/view243064.html